สนาม: ข่าวออนไลน์
บทนำ:ตั้ง ‘คน’ พลาดรัฐบาล ‘เจ็บ’ ตอกลิ่มไม่สังฆกรรมท็อปบูต 31 มกราคม พศ 2561 เวลา 00:01 น เป็นอีกครั้งที่รัฐบาลถูกบุคคลปฏิเสธที่จะร่วม สังฆกรรม ด้วย ทั้งที่มีการลงนามในคำสั่งแต่งตั้งไปแล้ว หลังเกิดกรณี สฤณี อาชวานันทกุล นักเขียนและกรรมการผู้จัดการด้านการพัฒนาความรู้ บริษัท ปาสาละ จำกัด ปฏิเสธที่จะเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภายใต้คณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ สฤณี ปฏิเสธว่า เพราะไม่ต้องการทำงานร่วมกับ เผด็จการทหาร ทั้งที่มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง ลงนามโดย บิ๊กตู่ พลอประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช) ไปเรียบร้อยแล้ว จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครทราบว่า ความจริง เรื่องการแต่งตั้ง สฤณี ในครั้งนี้ เป็นความ ตั้งใจ หรือ ผิดพลาด ของผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการกลั่นกรองคนก่อนที่จะให้ บิ๊กตู่ ลงนามเซ็นคำสั่ง แต่ที่แน่ๆ การปฏิเสธครั้งนี้ ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของ รัฐบาลบิ๊กตู่ ดูย่ำแย่มากขึ้นไปอีก ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ต้องรับศึกหนักหลายเรื่อง ตั้งแต่กรณีแหวนแม่ นาฬิกาเพื่อน ของ บิ๊กป้อม พลอประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมวกลาโหม หรือการขยับการเลือกตั้งออกไปอีก 3 เดือน หลังจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช) เห็นชอบแก้ไขร่าง พรบประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร ฉบับที่ พศ จากเดิมให้มีผลบังคับทันทีหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา เปลี่ยนเป็นให้มีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว 90 วัน โดยเฉพาะกรณีแรก ที่ต้องยอมรับว่าทำให้รัฐบาล และตัว บิ๊กตู่ เสียความนิยมและแนวร่วมไปไม่น้อย อย่างกรณีล่าสุดที่นายอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ที่เคยประกาศตัวสนับสนุนทหาร ก็ลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล เพราะถูก เซ็นเซอร์ ผลสำรวจเรื่องนาฬิกาหรู แม้ในช่วงที่ผ่านมา สฤณี จะถูกมองว่า เป็นนักเขียนที่มีแนวคิดตรงข้ามกับทหาร มักจะวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและ คสชอยู่เสมอ แต่การปฏิเสธร่วมองคาพยพ มันทำให้เป็นการ ตอกลิ่ม กระแสแอนตี้ท็อปบูตให้ดังมากขึ้นไปอีก จะด้วยเหตุผลว่า รัฐบาลไม่กีดกันคนเห็นต่างมาร่วมทำงานด้วย หรือจะเป็นความผิดพลาดในการตรวจสอบข้อมูล ทัศนคติบุคคลต่างๆ ก่อนจะแต่งตั้ง หรือจะเป็นเรื่องความผิดพลาดในการประสานงาน ผลที่ออกมาคือ เป็นการ ย้ำแผล ตัวเองทั้งสิ้น กรณี สฤณี ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัฐบาลหน้าแตก ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ มีเรื่องในลักษณะนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ครั้งเฉพาะการแต่งตั้งบุคคลสำคัญ ยังไม่นับตำแหน่งเล็กๆ ที่ไม่ปรากฏเป็นข่าวสาร ถ้าจำกันได้ ตอนแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านต่างๆ หลังจากคำสั่งออกมา ปรากฏชื่อ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมวคมนาคม ในรัฐบาล นสยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มานั่งเป็นกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ปรากฏเป็นข่าวฮือฮา เพราะเป็นการดึงอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลที่ตัวเองเข้าไปยึดอำนาจมาร่วมทำงาน ก่อนที่ ชัชชาติ จะออกมาปฏิเสธไม่ขอเข้าร่วม โดยอ้างว่าไม่ได้มีการพูดคุยกันมาก่อน รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยตอนนั้นระบุว่า จริงๆ แล้ว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่พอใจอย่างมาก รวมทั้งการตำหนิจากมวลชนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ทำให้ ชัชชาติ รีบถอนตัวออกมา แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่คนให้ความสนใจเท่าไหร่นักเท่ากับการปฏิเสธไม่ร่วมหอลงโลงกับ คณะรัฐประหาร เช่นเดียวกับในกรณี นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ที่ปฏิเสธที่จะเป็นกรรมการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ที่คำสั่งมาในคราวเดียวกับ ชัชชาติ แม้ สมชัย จะพูดรักษาน้ำใจ โดยการขอบคุณนายกฯ ที่เห็นความสำคัญ แต่ภาพที่ออกมาจากการปฏิเสธของเขาที่คนภายนอกเข้าใจคือ รัฐบาลชุดนี้ไม่น่าทำงานด้วย ในช่วงนั้น การลาออกดังกล่าวเหมือนเป็นการตอกย้ำกระแสข่าวเรื่องที่ว่า ไม่มีใครอยากทำงานร่วมกับรัฐบาลชุดนี้ ที่มีปัญหาหลายด้านจริง ที่สำคัญ ไร้อิสระ จนหาคนมาทำงานด้วยยาก และถ้าย้อนกลับไปแรกๆ เรื่องนี้เคยเป็นประเด็นใหญ่โตตอน ทิชา ณ นคร ลาออกจากสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช) นี่เป็นจุดเล็กๆ ที่รัฐบาลพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า และไม่เคยส่งผลดีกับตัวเองสักครั้ง และไม่ว่าประวัติบุคคลเหล่านี้จะเป็นอย่างไร แต่การปฏิเสธเข้าร่วมทำงานกับรัฐบาลแต่ละครั้ง มันเหมือนเป็นการ ซ้ำบาดแผล ที่ลึกอยู่แล้วให้ยิ่งบานเบอะเข้าไปอีก เป็นการพลาดแบบไม่น่าพลาด...
สนาม: Sina การแพทย์แผนจีน
บทนำ: คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบเมื่อวันอังคารที่ 31 มค2561 ให้ยกเว้นภาษีบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่นำค่าใช้จ่ายบริจาคเข้ากองทุนวิจัยและนวัตกรรม 4 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ฯ กองทุนสนับสนุนการวิจัย กองทุนเพื่อการพัฒนาระบบมาตรวิทยา กองทุนเพื่อการพัฒนาระบบสาธารณสุข หากบุคคลธรรมดาบริจาค โดยนำค่าใช้จ่ายหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า เมื่อร่วมกับการบริจาคด้านการศึกษาต้องไม่เกิน10% ของเงินบริจาค
ลิงค์ที่เป็นมิตรเวลาปัจจุบัน:2021-03-03